ทฤษฎีการเรียนรู้ของพาฟลอฟ


                                      
                                 https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgZNYAy8qfgRGMwDUX5agZEyOmBdKBCFq4q5P57cRTaDJbfiMBNJPcy88czT4F-aXJe8n61ZK0tjzzWBiayM82AcTjmGwHcHk10DA4IRUXMR3eYmbldoshaOtGi8A6t6DcJJMW9RHDbP7tJ/s1600/untitled014.bmp


ทฤษฎีการเรียนรู้ของพาฟลอฟ  Ivan Petrovich Pavlov )   ชื่อ  อีวาน เปโตรวิช พาฟลอฟ      เกิด 14 กันยายน  ค.ศ.1849 ( 1849-09-14 ) รีซาน จักรวรรดิรัสเซีย     เสียชีวิต    27 กุมภาพันธ์ ค.ศ.1936 (อายุ 86 ปี) เลนินกราด สหภาพโซเวียต     สาขาวิชา สรีวิทยา จิตวิทยา แพทย์    ผลงาน การวางเงื่อนไขแบบดั้งเดิม Transmarginal.inhibition การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเกียรติประวัติ      รางวัลโนเบลสาขาสรีวิทยา หรือการแพทย์ ( ค.ศ.1904 )
ทฤษฎีการวางเงื่อนไขแบบคลาสสิค        พาฟลอฟ เชื่อว่าการเรียนรู้ของสิ่งมีชีวิตจำนวนมากเกิดจากการวางเงื่อนไข กล่าวคือ การตอบสนองหรือการเรียนรู้ที่เกิดขึ้นต่อสิ่งเร้าหนึ่งมักมีเงื่อนไขหรือ สถานการณ์เกิดขึ้น ซึ่งในสภาพปกติหรือในชีวิตประจำวันการตอบสนองเช่นนั้นอาจไม่มี เช่น กรณีสุนัขได้ยินเสียงกระดิ่งและน้ำลายไหล เสียงกระดิ่งเป็นสิ่งเร้าที่ต้องการให้เกิดการเรียนรู้จากการวางเงื่อนไข พาพลอฟ เรียกว่า สิ่งเร้าที่มีเงื่อนไข และปฏิกิริยาน้ำลายไหล เป็นการตอบสนองที่เรียกว่าการตอบสนองที่มีเงื่อนไข 
ทฤษฎีการวางเงื่อนไขแบบคลาสสิคของพาฟลอฟ                จุดเริ่มมาจากนักสรีระวิทยา ชาวรัสเซีย ชื่อ อิวาน พาฟลอฟ (Ivan Pavlov) ทำการทดลองให้สุนัขหลั่งน้ำลายเมื่อได้ยินเสียงกระดิ่ง โดยอินทรีย์ (สุนัข) เกิดการเชื่อมโยงสิ่งเร้า 2 สิ่ง คือ เสียงกระดิ่งกับผงเนื้อ จนเกิดการตอบสนองโดยน้ำลายไหล เมื่อได้ยินเสียงกระดิ่ง ดังรูปต่อไปนี้ก่อนวางเงื่อนไข 
ขณะวางเงื่อนไข  หลังจากวางเงื่อนไขส่วนประกอบของกระบวนการวางเงื่อนไข
  • สิ่งเร้าที่ไม่มีเงื่อนไข UCS (Unconditional Stimulus)
  • สิ่งเร้าที่มีเงื่อนไข CS (Conditional Stimulus)
  • การตอบสนองอย่างไม่มีเงื่อนไข UCR (Unconditional Response)
  • การตอบสนองอย่างมีเงื่อนไข CR (Conditional Response) 

(Classical Conditioning Thoery )
                การทดลองโดยสั่นกระดิ่งก่อนที่จะเอาอาหาร (ผงเนื้อ) ให้แก่สุนัข เวลาระหว่างการสั่นกระดิ่งและการให้ผงเนื้อแก่สุนัขต้องเป็นเวลาที่กระชั้นชิดมากประมาณ .25 ถึง .50 วินาทีทำซ้ำควบคู่กันหลายครั้ง และในที่สุดหยุดให้อาหารเพียงแต่สั่นกระดิ่งก็ปรากฏว่าสุนัขก็ยังคงมีน้ำลายไหลได้ โดยที่ข้างแก้มของสุนัขติดเครื่องมือวัดระดับการไหลของน้ำลายไว้ ปรากฏการเช่นนี้เรียกว่า พฤติกรรมของสุนัขถูกวางเงื่อนไข (Povlov, 1972) หรือที่เรียกว่าสุนัขเกิดการเรียนรู้แบบวางเงื่อนไขแบบคลาสสิค 

การเรียนรู้ที่เรียกว่า classical conditioning นั้นหมายถึงการเรียนรู้ใดๆก็ตามซึ่งมีลักษณะการเกิดตาม ลำดับขั้นดังนี้             1. ผู้เรียนมีการตอบสนองต่อสิ่งเร้าใดสิ่งเร้าหนึ่ง             2. การเรียนรู้เกิดขึ้นเพราะความใกล้ชิดและการฝึกหัด            


องค์ประกอบสำคัญในการเรียนรู้ที่เกิดขึ้นแต่ละครั้ง จะต้องประกอบด้วยกระบวนการของส่วนประกอบ 4อย่าง คือ        1. สิ่งเร้า เป็นตัวการที่ทำให้บุคคลมีปฏิกิริยาโต้ตอบออกมา        2. แรงขับ จะทำให้เกิดปฏิกิริยาหรือพฤติกรรมที่จะนำไปสู่การเรียนรู้ต่อไป        3. การตอบสนอง เป็นปฏิกิริยาหรือพฤติกรรมที่แสดงออกมาเมื่อได้รับการ กระตุ้นจากสิ่งเร้า        4. สิ่งเสริมแรง เป็นสิ่งมาเพิ่มกำลังให้เกิดการเชื่อมโยงระหว่างสิ่งเร้ากับการตอบสนองให้มีแรงขับเพิ่มขึ้นกฎการเรียนรู้จากสิ่งที่เกิดขึ้นในการทดลอง พาฟลอฟ ได้สรุปเป็นกฎ ข้อคือ        1. กฎการลบพฤติกรรม

        2. กฎแห่งการคืนกลับ        3. กฎความคล้ายคลึงกัน
        4. การจำแนกลักษณะของทฤษฎีการวางเงื่อนไขแบบคลาสสิค

          1.การตอบสนองเกิดจากสิ่งเร้า หรือสิ่งเร้าเป็นตัวดึงการตอบสนองมา          2.การตอบสนองเกิดขึ้นโดยไม่ได้ตั้งใจ หรือไม่ได้จงใจ          3.ให้ตัวเสริมแรงก่อน แล้วผู้เรียนจึงจะตอบสนอง เช่น ให้ผงเนื้อก่อนจึงจะมีน้ำลายไหล          4.รางวัลหรือตัวเสริมแรงไม่มีความจำเป็นต่อการวางเงื่อนไข          5.ไม่ต้องทำอะไรกับผู้เรียน เพียงแต่คอยจนกระทั่งมีสิ่งเร้ามากระตุ้นจึงจะเกิดพฤติกรรม    6.เกี่ยวข้องกับปฏิกิริยาสะท้อนและอารมณ์ ซึ่งมีระบบประสาทอัตโนมัติเข้าไปเกี่ยวข้องในแง่ของความแตกต่างระหว่างบุคคล การประยุกต์ใช้ในด้านการเรียนการสอน        1.ในแง่ของความแตกต่างระหว่างบุคคล        2.การวางเงื่อนไข เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับพฤติกรรมทางด้านอารมณ์        3.การลบพฤติกรรมที่วางเงื่อนไข        4.การสรุปความเหมือนและการแยกความแตกต่าง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น